เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลการศึกษามีหลายชนิด
แต่ละชนิดเหมาะสมกับการวัดพฤติกรรมทางการศึกษาที่แตกต่างกัน ดังนี้
1.
การทดสอบ(Testing) หมายถึง
กระบวนการในการนำชุดของสิ่งเร้าไปกระตุ้นให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมที่ต้องการวัดออกมาให้ครูสังเกตได้และวัดได้
การทดสอบเป็นวิธีการวัดผลที่ใช้สำหรับวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย อันประกอบไปด้วย ความรู้ความจำ ความเข้าใจ
การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และ การประเมินค่า โดยมีแบบทดสอบ (Test)
ที่ประกอบไปด้วยข้อสอบ (Itemtest) หลาย ๆ
ข้อที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมดังกล่าวออกมา
แบบทดสอบวัดพฤติกรรมพุทธิพิสัย ถ้าแบ่งตามวิธีการเขียนตอบมี 2 ประเภท คือ แบบทดสอบอัตนัย กับแบบทดสอบปรนัย
แต่ละประเภทมีคุณสมบัติในการวัดต่างกัน
ก่อนเลือกใช้ควรศึกษาคุณสมบัติของแบบทดสอบแต่ละชนิดให้ดีเสียก่อน
2.
การสังเกต (Observation) หมายถึง
การเฝ้าดูอย่างมีจุดมุ่งหมายโดยอาศัยประสาทสัมผัสแล้วจดบันทึกสิ่งที่สังเกตไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลลงสรุปสิ่งที่ทำการสังเกต
ทางการศึกษาใช้การสังเกตสำหรับวัดผลพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย เช่น ความสามารถในการอ่านออกเสียง ความสามารถในการร้องเพลง
หรือความสามารถในการวาดรูป นอกจากนั้นยังใช้วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยที่เป็นคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และจิตพิสัยที่เป็นบุคลิกภาพ เช่น
ความเชื่อมั่นในตนเอง ความก้าวร้าว ความใฝ่รู้ ได้ดี
การสังเกตต้องมีเครื่องมือช่วยในการจดบันทึกผลการสังเกต เช่น แบบสำรวจรายการ
มาตรประมาณค่า หรือ แบบบันทึกพฤติกรรม
3.
แบบสำรวจรายการ
(Checklist) เป็นเครื่องมือวัดที่มีลักษณะเป็นชุดรายการที่ต้องการตรวจสอบ
ซึ่งต้องการคำตอบเพียง 2 กรณี คือ
ตอบรับกับตอบปฏิเสธ เช่น นักเรียนปฏิบัติได้หรือปฏิบัติไม่ได้
นักเรียนมีหรือไม่มีพฤติกรรมตามรายการที่กำหนด
ทางการศึกษานิยมใช้แบบสำรวจรายการเป็นเครื่องมือบันทึกการสังเกตเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมีพฤติกรรมด้านจิตพิสัย หรือ ด้านทักษะพิสัย ตามรายการที่ครูกำหนดไว้หรือไม่ โดยไม่สนใจระดับความมากน้อยของพฤติกรรม
4.
มาตรประมาณค่า (Rating Scale) เป็นเครื่องมือวัดที่มีลักษณะเป็นชุดรายการที่ต้องการตรวจสอบเหมือนกับแบบสำรวจรายการต่างกันตรงที่สามารถบอกระดับคุณภาพหรือระดับปริมาณของรายการที่ตรวจสอบว่ามีมากน้อยเพียงใด
เช่น นักเรียนปฏิบัติตามรายการที่กำหนดได้ดี ปฏิบัติได้พอใช้ หรือยังปฏิบัติไม่ได้ นักเรียนมีพฤติกรรมตามรายการที่กำหนดระดับดี
ระดับพอใช้ หรือยังต้องปรับปรุง ทางการศึกษานิยมใช้มาตรประมาณค่าเป็นเครื่องมือบันทึกการสังเกตเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมีพฤติกรรมด้านจิตพิสัย หรือ ด้านทักษะพิสัย แต่ละรายการในระดับมากน้อยเพียงใด
5.
แบบบันทึกพฤติกรรม
(Records) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจดบันทึกพฤติกรรมหรือเหตุการณ์ที่สังเกตได้
โดยการเขียนข้อความเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ทำการสังเกตลงในกระดาษบันทึกอย่างเป็นระบบตามความเป็นจริง
นิยมใช้เป็นเครื่องมือประกอบการสังเกตพฤติกรรมด้านจิตพิสัย หรือด้านทักษะพิสัยทีเน้นการปรับปรุงแก้ไขพัฒนามากกว่าเน้นการให้คะแนน
6.
การสัมภาษณ์ (Interview) เป็นการพูดคุยกันอย่างมีจุดมุ่งหมายระหว่างบุคคล
2 ฝ่าย คือ ผู้สัมภาษณ์กับผู้ถูกสัมภาษณ์
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ ครูอาจใช้การสัมภาษณ์นักเรียนเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริง เช่น จำนวนสมาชิกในครอบครัว ลักษณะการอยู่ร่วมกันในครอบครัว
ฐานะทางเศริษกิจของครอบครัว หรือเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น เช่น ความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรมของโรงเรียน ความคิดเห็นที่เป็นข้อเสนอแนะในเรื่องต่าง
ๆ หรือใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับความรู้สึก เช่น ความพึงพอใจ การตระหนักในคุณค่า
เจตคติ นอกจากการสัมภาษณ์นักเรียนแล้วครูอาจสัมภาษณ์ผู้ปกครองเพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนก็ได้
7.
แบบสอบถาม (Questionaire) เป็นชุดของคำถามที่ใช้รวบรวมข้อมูลต่าง
ๆ ที่ต้องการทราบ โดยผู้ตอบจะต้องเขียนตอบลงในแบบสอบถามด้วยตัวเอง
ทางการศึกษาใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลลักษณะเดียวกับการสัมภาษณ์ เช่น ข้อเท็จจริง ความคิดเห็น และความรู้สึก แต่จะใช้ได้ดีในกรณีที่ผู้ให้ข้อมูลอ่านออกเขียนได้
8.
สังคมมิติ (Sociometry) เป็นวิธีการวัดเพื่อศึกษาลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคม
ว่านักเรียนเป็นที่ยอมรับของสมาชิกในกลุ่มเพียงใด
เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมด้านการปรับตัว โดยให้นักเรียนตอบคำถามที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของสมาชิกในกลุ่ม
เช่น ใครเป็นเพื่อนรักของนักเรียน นักเรียนชอบเล่นกับใคร
เมื่อได้คำตอบจากนักเรียนแล้วแล้วครูจะนำคำตอบของนักเรียนมาวิเคราะห์
เพื่อดูว่ามีนักเรียนคนใดบ้างที่เพื่อนไม่เลือก ซึ่งอาจเป็ผู้ที่มีแนวโน้มเกี่ยวกับปัญหาการปรับตัว
หากพบนักเรียนที่มีลักษณะดังกล่าวครูควรช่วยเหลือเพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข