การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
U
: การออกแบบการเรียนการสอนทเป็นสากล (Universal Design for
Instruction UDD 1)เป็นการออกแบบการสอนทีผู้สอนมีบทบาทเป็นเคาเนินการเชิงรุก
(proactive การกระทาโดยไมด้องมีสงใดมากระตุ้น) เกี่ยวกับ
การผลิตและหรือจัดหาจัดทำหรือชี้แนะผลิตภัณฑ์การศึกษา(educational products
(computers,websites, software, textbooks, and lab equipment) และ
สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ (dormitories, classroomstudentunionbuildings,
libraries, and distance learning courses), ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนนาความรู้จากหลายสาขาวิชามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นข้นตอนกระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกำหนดให้ต้องระบุว่าจะเรียน อะไร วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้นวัดผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า
การเรียนรู้นั้นบรรลุตามจดประสงค์หรือไม่และกลั่นกรองตัวสอดแทรก (intervention)
จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์ จากลักษณะนี้เองจึงทำให้เกิดแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป
(generic Instruction Design modelID model) ขึ้น (Gibbons
1981 : 5, Hannum and Hansen, 1989)
เกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนนี้ แฮนนัมและบริกส์ (Hannum
and Briggs) ได้เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
และการเรียนการสอนเชิงระบบ ดงรายละเอียดในตารางที่ 11
ในการออกแบบการเรียนการสอน กระบวนการมีความสำคัญพอๆ กับผลิตผล เพราะว่าความเชื่อมั่นในผลิตผล
จะขึ้นอยู่กับกระบวนการในการที่จะมีความเชื่อมั่นในผลิตผล ต้องดำเนินตามแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอน
สําหรับในแต่ละขนตอนนั้น ลำดับขั้นตอนของแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอน
สำหรับในแต่ละขั้นตอนนั้น ลำดับขั้นของภาระงานจะต้องแสดงออกมา
และผลที่ได้รับที่มีความเฉพาะเป็นพิเศษก็จะเกิดขึ้นคงรายละเอียดในตารางที่ 11
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน (designer's role) สามารถเปลี่ยนแปลงได้นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค
หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค
และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบเนอหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้ค่าแนะน้าในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้านเนอหาt
expert) ถ้าเนื้อหานั้นไม่ต้องใช้เทคนิคทีสูงมากจนเกินไป
ผู้ออกแบบก็สามารถจัดทำได้อย่างอิสระมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของผู้ชำนาญ การด้านเนื้อหา
ผู้ออกแบบสามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาจากภายนอก และรบผิดชอบภาระงานทั้งหมด
เหมือนกับเป็นคนในสำนกงาน (in-house employers) ซึ่งได้รับ
ความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาวิชา
ดังตัวอย่างทั้งสาม (Seels and Glasgow ,1990:7-9 )
1.ผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาและมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโลยีและเป็นผู้ที่รู้บทบาทของการออกแบบด้วย
ไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือด้านความรู้ ความชำนาญทางเนื้อหาวิชา
2. ผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ที่ได้รับการร้องขอให้ทำงานในด้านเนื้อหาที่อาจจะมี ความคุ้นเคย
แต่ผู้ออกแบบยังคงรู้สึกมีความจำเป็นทีจะทำงานกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
3
ผู้ออกแบบอาจจะได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคย
และ ดังนั้นจึงข้าเป็นด้องเลือกและเร้างานกับผู้เชียวชาญด้านเนื้อหาจำนวนมาก
ตารางที่ 1 1 เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนเชิงระบบ
องค์ประกอบของการเรียนการสอน
|
การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอนเชิงระบบ
|
·
กำหนดเป้าประสงค์
(Setting goals)
|
ตำราหลักสูตรดังเดิมการอ้างอิงภายใน
|
*การประเมินความต้องการจำเป็น
"การวิเคราะห์งาน
"การอ้างอิงภายนอก
|
2 จุดประสงค์(Objectives)
|
"กล่าวในรูปของผลที่ได้รับ
รวมๆ หรือการปฏิบัติของครูเการวิเคราะห์/การประเมินงาน
*เหมือนกันสำหรับนักเรียน
ทุกคน
|
*จากการประเมินความต้องการจำเป็นการวิเคราะห์ /การประเมินงาน
*เลือกด้วยการพิจารณาจาก
*ความสามารถของผู้เรียนเมื่อแรกเข้าเรียน
|
3.จุดประสงค์ในความรู้ -
เฉพาะของผู้เรียน (Student's knowledge of objectives)
|
*ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าต้องใช้สัญญาณจากการฟังคำบรรยายและการอ่านตำรา
|
*บอกกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษล่วงหน้าก่อนเรียน
|
4.ความสามารถก่อนเข้าเรียน (Entering capability)
|
*ไม่ต้องใส่ใจ นักเรียนทุกคนมีจุดประสงค์และวัสดุอุปกรณ์ /
กิจกรรมเหมือนกันหมด
|
*การพิจารณา
*การกำหนดวัสดุอุปกรณ์ / กิจกรรมแตกต่างกัน
|
5. ผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวัง
(Expected
achievement)
|
*ใช้โค้งมาตรฐาน
|
*มีความเป็นแบบอย่างเดียวกันสูง
|
6. ความรอบรู้(Mastery )
|
*นักเรียนส่วนน้อยรอบรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
*รูปแบบผิดพลาด
|
*นักหกเรียนส่วนใหญ่รอบรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
|
7.ค่าระดับและการเลื่อนระดับ (Grading and promotion )
|
*อยู่บนพื้นฐานการเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ
|
*อยู่บนพื้นฐานการรอบรู้จุดประสงค์
|
8.การสอนเสริม
(Remediation )
|
*บ่อยครั้งที่ไม่มีการวางแผน
*ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดประสงค์หรือวิธีการเรียนการสอน
|
*วางแผลสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือแสวงหาจุดประสงค์อื่นๆ
เลือกวิธีการเรียนการสอน
|
9.การใช้แบบทดสอบ
|
*กำหนดค่าระดับ
|
*เฝ้าระวังติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
*ตัดสินความรอบรู้
*วินิจฉัยความยากลำบาก
*ปรับปรุงการเรียนการสอน
|
10.เวลาศึกษากับความรอบรู้
(Stidy time va mastery )
|
*เวลาคงที่: ระดับของความรอบรู้หลากหลาย แตกต่างกัน
|
*ความรอบรู้คงที่ : เวลาหลากหลายแตกต่างกัน
|
11 การตีความของความล้มเหลวที่จะไปให้ถึงความรู้
(Interpretation of failute to reach mastery )
|
*นักเรียนผู้ส่งสาร
|
*มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการเรียนการสอน
|
12.การพัฒนารายวิชา
(Course ot development)
|
*เลือกวัสดุอุปกรณ์ก่อน
|
*ระบุจุดประสงค์ก่อนแล้วจึงจะเลือกวัสดุอุปกรณ์
|
13.ลำดับขั้นตอน
(Sequence )
|
*อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและสังเขปหัวเรื่อง
|
*อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตามความจำเป็น
และหลักการของการเรียนรู้
|
14.การปรับปรุงการเรียนการสอนและ วัสดุอุปกรณ์ (Revision of instructional and
materials )
|
*อยู่บนพื้นฐานของการคาดเดางาน หรือความเพียงพอ
*วัสดุอุปกรณ์ใหม่
*เกิดข้นเป็นพักๆ
|
*อยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อมูล
*เกิดขึ้นเป็นประจำ
|
15.กลยุทธ์การเรียนการสอน
(Instructional Strategies)
|
*พอใจให้ผ่านได้อย่างกว้างๆ
*อยู่บนพื้นฐานของความชอบและความคล้ายคลึง
|
*เลือกที่จะให้ได้รับตามจุดประสงค์
*ใช้ยุทธวิธีที่หลาย
*อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีและ การวิจัย
|
16.การประเมินผล (Evaluation )
|
*บ่อยครั้งที่ไม่เกิดขึ้น :
การวางแผนเชิงระบบมีน้อย
*ประเมินแบบอิงกลุ่ม ข้อมูลได้จากปัจจัยนำเข้า และ กระบวนการ
|
*การวางแผนเป็นระบบ :เกิดขึ้นประจำ
*ประเมินความรอบรู้ตามจุดประสงค์
*ประเมินผลอิงเกณฑ์ข้อมูลได้จากผลที่ได้รับ ( ผลผลิต )
|
ที่มา
: W.H.Hannum and leslir j.Briggs,”How does
lnstructional Systems Design Differ from
Traditional Instruction ,”Edouational Technology 22:12-13.1982
ตารางที่
12 งานและผลผลิตของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน
ขั้นตอนภาระงาน
|
ตัวอย่างภาระงาน
|
ตัวอย่างผลผลิต
|
การวิเคราะห์-กระบวนการของ การนิยมว่าต้องเรียนอะไร
|
-ประเมินความต้องการจำเป็น
-ระบุปัญหา
-วิเคราะห์ภาระงาน
|
-แฟ้มผู้เรียน
-การพรรณนาข้อจำกัด
-คำกล่าวของความต้องการจำเป็นและปัญหา
-การวิเคราะห์
|
การออกแบบ-กระบวนการของ การชี้เฉพาะว่าจะเรียนอย่างไร
|
-เขียนจุดประสงค์
-พัฒนารายการของแบบทดสอบ
-วางแผนการเรียนการสอน
-ระบุแหล่งทรัพยากร
|
-จุดประสงค์ที่วัดได้
กลยุทธ์การเรียนการสอน
-ลักษณะเฉพาะของตัวแบบ
Prototype
specification
|
การพัฒนา -กระบวนการของ
|
-ทำงานกับผู้ผลิต
|
-สตอรี่บอร์ด story board
|
หน้าที่และผลิตวัสดุอุปกรณ์
|
-พัฒนาคู่มือ แผน ถูมิโปรแกรม
|
-สคริป
-แบบฝึกหัด
-คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนการสอน
|
การนำไปใช้ –กระบวนการของการก่อตั้งโครงการในบริษัทแห่งโลกความจริง
|
-การฝึกอบรมครู
-การทดลอง
|
-การให้ความเห็นของนักเรียนข้อมูล
|
การประเมินผล-กระบวนการของการตกลงใจเกี่ยวกับความเห็นผลของการเรียนการสอน
|
-บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
-ผลการแปลความแบบทดสอบ
-สำรวจผู้สำเร็จการศึกษา
-ทบทวนกิจกรรม
|
-คำรับรอง (recommendation)
-รายงานโครงงาน
-ทบทวนตัวแบบ
|
ที่มา : Barbara Seels,and Zita Glasgow ,Exercises in
instructional Design (Columbus, Ohio :Merrill Publoshing Company,
1990 ), p.8.
นับว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วยเหมือนกัน
ที่จะให้ความแตกต่างระหว่างบทบาทของผู้วิจัย และผู้ปฏิบัติเพราะว่าข้อกำหนดในความสำเร็จของทั้งสองสานนมความแตกต่างกัน
ผู้ที่เป็นนักวิจัยสนใจในแต่ละขั้น ตอนของรูปแบบทั่วไป ดังนั้น ความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้ปฏิบัติ
(ID practitioner) จึงแตกต่างออกไปความสนใจและเป้าประสงค์ที่แตกต่างกัน
ดังแสดงไว้ในตารางที่ 3
ผู้ออกแบบที่เป็นนักปฏิบัติ
สามารถแสดงออกในแต่ละขันตอนจากการวิเคราะห์ไปจนถึงการทดลอง
ขึ้นอยู่กับว่าจะพรรณนางานว่าอย่างไร ถ้างานของผู้ออกแบบระบุไว้อย่างแคบๆ
แล้วผู้ออกแบบแสดงเพียงสองถึงสามขั้นตอนเท่านั้น โดยละทิ้งขั้นตอนที่เป็นผลิตผล
การนำไปใช้ และการประเมินผล
นักวิจัยการออกแบบการเรียนการสอน (ID remember) หรือผู้เชียวชาญ (specialist)
สนใจศึกษาค้าแปรและพัฒนาทฤษฎีทีสัมพันธ์กับการเรียนการสอน
นักปฏิบัติการออกแบบการเรียนสอน (ID practitioneror generation) สนใจการประยุกต์งานวิจัย และทฤษฎีการพัฒนาการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์
บทบาทอื่นๆ ของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอนดงแสดงไว้ในตารางที่ 3
ส่วนบทบาทของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนดังแสดงในตารางที่
13สาขาวิชาการออกแบบการเรียนการสอน มีอายุประมาณ 30 ปี
เป็นบทบาทของนักวิจัยที่จะส่งเสริมความงอกงามในทฤษฎีของการออกแบบการเรียนการสอน
และเนื่องจากว่าการออกแบบการเรียนการสอนเป็นสาขาวิชาประยุกต์
บทบาทของนกวิจัยจึงอาจดูเหมือนว่าแยกตัวออกไปตามลำพังและมีความสำคัญน้อย
สิ่งดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริงเพราะถ้าปราศจากิกิระบวนการทางทฤษฏีแล้ว
สาขาวิชาก็จะเฉื่อยชาอยู่กับที่ความมุ่งหมายของนักออกแบบการเรียนการสอน คือ ความจำเป็นที่จะต้อง
วาตน สามารถที่จะก้าวไกลได้ ในหนทางแห่งอาชีพของตนเอง ถ้ารับรู้วิธีการวิจัยที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอน
(Seels and Glasgow, 19990:10)
งานของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญ
ผลิตผลที่ได้และสถานการณของงาน
ผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการพัฒนา จัดการโครงการ อาจจะน้ำทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติ
การสามวัน สำหรับการอุตสาหกรรม (three-day workshop) การออกแบบไม่การทาภาระการออกแบบการเรียนการสอน
ตารางที่13 เปรียบเทียบความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป
|
บทบาทของผู้วิจัย
|
บทบาทผู้ปฏิบัติ
|
ขั้นที่1 การวิเคราะห์
ขั้นที 2 การออกแบบ
ขั้นที่ 3 การพัฒนา
ขั้นที 4 การนำไปใช้
ขั้นที่ 5 ประเมินผล
|
*ศึกษาวิธีการระบุปัญหา
*ศึกษาผลของคุณลักษณะของ
ผู้เรียน
*ศึกษาเนื้อหา
*ศึกษาตัวแปรในการออกแบบ
ข่าวสาร
*พัฒนากลวิธีการเรียนการสอน
*ศึกษากระบวนการของทีม
*ศึกษาชาติวงศ์วรรณาของตัวแปร
ในสิ่งแวดล้อม
*การระบุตัวแปรของการนาไปใช้
ให้ได้ผล
*ศึกษาข้อถกเถียงที่นำ ไปสูการ
ประเมินผล
|
*ประยุกต์ใช้วิธีการระบุปัญหา
*กำหนดคุณลักษณะของผู้เรียน
*ใช้การวิจัยในเนื้อหาตาม
สาขาวิชา
*ให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ออกแบบการ
เรียนการสอน
*ทำงานกับผู้ผลิตในการพัฒนาสคริป
*ออกแบบและจัดการ สิ่งแวดล้อมและตัวแปรในการเรียนการสอน
"ประยุกต์ทฤษฎีการประเมินผล
|
ที่มา : Barbara Seels,and Zita Glasgow,Exercises in instrucnal
(Columbus,Ohio : Merrill
Publoshing Company, 1990),
p.8.