วิธีการประเมินตามสภาพจริงที่ได้กล่าวแล้วนั้น
การที่จะได้มาซึ่งผลการเรียนรู้ที่แท้จริงของนักเรียน
ครูควรใช้วิธีการเก็บข้อมูลหลายๆ วิธีผสมผสานกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย
ครอบคลุมพฤติกรรมทุกด้านและมีจำนวนมากเพียงพอที่จะประเมินผลที่เกิดขึ้นในตัวนักเรียนอย่างมั่นใจหลักเกณฑ์
วิธีการให้คะแนนตามแนวทางการประเมินตามสภาพจริง
การให้คะแนน
หลักเกณฑ์และวิธีการให้คะแนนตามแนวทางของาการประเมินตามสภาพจริงของนักเรียน
ทำได้ใน 2 แนวทาง (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ, 2540 : 12-14) ดังนี้
แนวทางที่ 1
ให้คะแนนในลักษณะภาพรวม
เป็นการให้คะแนนในความหมายว่า
คะแนนนั้นเป็นตัวแทนความประทับใจในผลงานทั้งหมดรวมทุกด้านแล้ว
มักใช้กับเครื่องมือวัดประเมินผลที่เป็น Authentic Test
ตัวอย่างการให้คะแนนในลักษณะภาพรวม
ตัวอย่างที่
1 กำหนดสถานการณ์ให้นักเรียนคิด
แล้วให้ตอบพร้อมอธิบายวิธีการคิด
เกณฑ์การให้คะแนน
0 = ไม่ตอบหรือตอบไม่ถูกและอธิบายวิธีคิดไม่ได้
1 = ไม่ตอบ
แต่แสดงวิธีคิดเล็กน้อย วิธีคิดมีแนวทางจะนำไปสู่คำตอบได้
2 = ตอบผิดแต่มีเหตุผลหรือเกิดจากการคำนวณผิดพลาด แต่มีแนวทางไปสู่
คำตอบที่ชัดเจน
3 = คำตอบถูก เหตุผลถูกต้อง อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง
4 = คำตอบถูก แสดงเหตุผลถูกต้อง แนวคิดชัดเจน
ตัวอย่างที่ 2 ใช้แนวคิดคล้ายการประเมินแบบอิงกลุ่ม คือ
แบ่งงานนักเรียนออกเป็น 3 กอง
กองที่ 1
งานที่มีคุณภาพพิเศษ
กองที่ 2
งานที่ได้รับการยอมรับ
กองที่ 3
งานที่ไม่ได้รับการยอมรับ
แบ่งงานแต่ละกองออกเป็น 2
ระดับ แต่ละกองจะได้ระดับคะแนนเป็น
5-6, 3-4, และ 1-2
ตามลำดับ
พร้อมทั้งอธิบายลักษณะงานแต่ละกอง
สำหรับงานที่แสดงว่าไม่ได้ใช้ความพยายามเลยให้ “0” คะแนน
แนวทางที่ 2
ให้คะแนนในลักษณะวิเคราะห์งานเป็นส่วนย่อย
เป็นการแตกย่อยผลสัมฤทธิ์ของงานหนึ่งๆ
ออกเป็นหลายๆ ด้าน
เพื่อวิเคราะห์ระดับความสำเร็จแต่ละด้านในงานนั้น ของนักเรียน
ข้อมูลมีประโยชน์มากต่อการพัฒนาการเรียนการสอน มักใช้ประเมินแฟ้มสะสม
ตัวอย่างข้อสอบและวิธีการให้คะแนนในลักษณะวิเคราะห์งานเป็นส่วนย่อย
การประเมินภาพวาด (ศิลปศึกษา)
(สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ 2540 : 17 อ้างถึง สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ.
2537)
การจัดองค์ประกอบ
1
คะแนน องค์ประกอบภาพน้อยหรือมากเกินไป เนื้อหาไม่ตรงจุดมุ่งหมาย ระยะภาพมีระยะเดียว
2
คะแนน องค์ประกอบภาพกระจายจนไม่มีจุดเด่น ระยะภาพผิดขนาดในบางส่วน
3
คะแนน ภาพมีความสมดุล จุดเด่นภาพชัดเจน เหมาะสม
มีการใช้ระยะภาพใกล้ – ไกล นำสายตาไปยังจุดเด่น
การผสมสี
1
คะแนน บีบสีจากหลอด
ระบายบนกระดาษเลย
และไม่สามารถผสมสีได้ตามต้องการ
2
คะแนน ใช้จานสีในการผสมสี แต่สีเหลวหรือข้นเกินไป
3
คะแนน
ผสมสีได้เหมาะสมและใช้สีได้ใกล้เคียงความจริง ฯลฯ
กล่าวโดยสรุป
วิธีการให้คะแนนตามแนวประเมินตามสภาพจริง
เน้นที่การให้ข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ถึงความสำเร็จหรือความรอบรู้ของนักเรียนว่ามีลักษณะอย่างไรและความสำเร็จหรือความรอบรู้ในระดับที่แตกต่างกันนั้น มีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ไม่ใช่ให้ความหมายเพียงแค่การได้ / ตก หรือ
ผ่าน / ไม่ผ่าน
หรือระดับของการผ่านเท่านั้น
นอกจากนี้การนำผลประเมินไปใช้ประโยชน์ด้านการตัดสินผลการเรียนก็มีความสำคัญเป็นอันดับรองจากการนำไปใช้เพื่อพัฒนานักเรียนและตัวครู