บทที่ 5 การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital
Learning)
D: การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital
Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่าน
เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็น เกงวกับเนื้อหา (ดาtent) จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Relection) ซึ่งตั้งอยู่ในการเรียนรู้ การทํา และชีวิตประจําวัน
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต 2546 : 9 – 10) กล่าวว่า
สังคมข่าวสารข้อมูลหรือสังคมสารส
โลกมีข่าวสารข้อมูลแพร่กระจายกว้างขวางทั่วถึงรวดเร็วมาก ก็คิดว่าคนจะฉลาด คนจะมีปัญญา
จะเข้าสู่ยะ แห่งปัญญา
แต่ที่จริงการมีข้อมูลข่าวสารมากไม่จําเป็นต้องทําให้คนมีสติปัญญา
หากว่าไม่พัฒนาคนให้รู้จัก รับและใช้ข้อมูลนั้น
และกล่าวสรุปไว้ว่าจําแนกคนได้เป็นสามประเภท ดังนี้
1. กลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อ
ในกรณีที่คนไม่พัฒนาสติปัญญาอย่างถูกต้องให้สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่าง แท้จริง
และสามารถถือเอาประโยชน์จากข่าวสารข้อมูลได้ก็จะเป็นโทษอย่างมาก
ข่าวสารข้อมูลจะกลายเป็น เครื่องมือก่อสร้าและหลอกลวง ทําให้คนเป็นเหยื่อ
2 กลุ่มที่รู้เท่าทัน
คนจํานวนมากมีความภาคภูมิใจว่าตนตามทันข่าวสารข้อมูล มีข่าวสารข้อมูล
อะไรออกมาก็ตามทันหมด ปรากฏว่าตามทันเท่านั้น แต่ไม่รู้เท่าทัน
และก็ถูกกระแสข่าวสารข้อมูลท่วมทับ พัดพาไป กรณีเช่นนี้ถ้ามีปัญญารู้เท่าทันก็จะทําให้ดํารงอยู่ท่ามกลางกระแสได้
เป็นผู้ที่ยืนหยัดตั้งหลักอยู่ได้
3. กลุ่มที่อยู่เหนือกระแส
การรู้เท่าทันยังไม่พอ ควรที่จะสามารถทําได้ดีกว่านั้นอีกคือขึ้นไปอยู่ เหนือกระแส
เป็นผู้ที่สามารถนําเอาข้อมูลข่าวสารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
คนกลุ่มนี้สามารถ จัดการกับกระแส
โดยทําการเปลี่ยนแปลงในกระแสหรือนํากระแสให้เดินไปในทิศทางใหม่ที่ถูกต้อง
ศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ (http://www.dlthailand.com/thima-khxng-khongkar) อ้างอิงงานวิจัยของ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยว่าสาเหตุหลักส่วนหนึ่งของปัญหา
คุณภาพการศึกษาไทย คือ การที่
ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันเป็นระบบที่ไม่เอื้อต่อการสร้าง ความรับผิดชอบ (Accountability) หลักสูตรและตําราเรียนของไทยไม่สอดคล้องกับ
การพัฒนาทักษะแห่ง ศตวรรษที่ 21 (21st
Cen ซึ่งมีผลทําให้การเรียนการสอน
ตลอดไปจนถึงการทดสอบยังคงเน้น การจดจําเนื้อหามากกว่าการเรียนเพื่อให้
มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง อีกทั้งสภาพการจัดการศึกษาของ
ประเทศไทยในปัจจุบัน กําลังประสบปัญหาในด้านคุณภาพของนักเรียน ปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งมีสาเหตุจาก
การขาดครูหรือครูไม่ครบชั้นไม่สาระการเรียนรู้ครูมีประสบการณ์หรือทักษะการจัดการเรียนรู้น้อย
ขาคสื่อ อุปกรณ์ที่ทันสมัยและการ สงได้ลําบาก ครูมีเวลาในการจัดการเรียนการสอนน้อย
กิจกรรมของโรงเรียนมีมาก ทรัพยากรที่มีกระจัด
จายไม่สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า
และการแก้ปัญหาต่างๆก็ทําได้ในวงจํากัด กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทํา
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมี ดิจกรรมหลัก
คือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลโดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรมย่อย เสือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกล
ปานเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีทางไกล
(Distance 1.ins) เป็นการจัดการศึกษาที่ใช้เทคโนโลยี ในการจัดการเรียนการสอนในทุกห้องเรียน
แก้ปัญหาการ ขาดแคลนครู ในโรงเรียนขนาดเล็ก
ครูสามารถจัดการเรียนรู้ในทุกสาระได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนและ ครได้เข้าถึง
สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย นักเรียนและครูมีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และทุกภาคส่วนเข้า มามีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา การนําเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล (Distance
Learning) มายกระดับ คุณภาพการศึกษา เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance
Learning Television : DLTV) และการจัดการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Distance Learning
via Information Technology ; DLIT) มาดําเนินงานโดยเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษา
โดยมีการจัด สภาพการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ของครูอย่างครบถ้วน
ทั้งกระบวนการออกแบบกิจกรรมการ เรียนการสอนที่เน้น กระบวนการสร้างความรู้
จากการลงมือปฏิบัติ เนื้อหา ตลอดจนสื่อและอุปกรณ์ที่จําเป็น ในการจัดเรียนการสอน
อันจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ําทางการศึกษา ลดช่องว่างและเพิ่มโอกาสในการ
เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับ ประชาชนไทยทุกคน
อันเป็นการดําเนินการตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
และสนองพระราชดําริในการที่จะพัฒนาการศึกษาไทยให้เจริญก้าวหน้า เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ (การศึกษาจะถูกเปลี่ยนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
บทความไอที 24 ชั่วโมง วันที่: 25 พฤศจิกายน 2016) ได้เสนอบทความเรื่อง
การศึกษาจะถูกเปลี่ยนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล สรุปความว่า
เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่กําลังทําให้สิ่งของทุกสรรพสิ่งบนโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้
นั้นคือ Internet of Everything (IoE) IoE จะสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้
ที่มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เช่น
นักศึกษาที่อาศัยอยู่ในลอนดอนสามารถร่วมรับฟังการบรรยายจาก
สถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกาได้ โดยอาศัยอุปกรณ์สื่อสารที่ทําให้ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน
โดยข้อมูลการเรียนรู้และข้อมูลทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลาข้อมูล
และสื่อการสอนต่างๆ ที่มีอยู่จะถูกนํามาใช้ร่วมกันในรูปแบบใหม่
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะส่งผลกระทบต่อ “วิธีการ” และ “สถานที่” ที่ใช้ในการเรียนรู้
ดังนั้นผู้เรียนจะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ เศรษฐกิจ -
ที่เชื่องฟูทําให้IoE มีความจําเป็นมากกว่าทักษะและจํานวนของผู้เชี่ยวชาญ
อีกทั้งการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นโดย lots จะทําให้อุปกรณ์สามารถนํามาใช้ประเมินประสิทธิภาพของผู้เรียน แบบทดสอบเพื่อทดสอบจุดอ่อนและจุคแข็งของผู้เรียน
และ นอกจากนี้ loE ยังสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของผู้มีความบกพร่องทางร่างกายและทางสติปัญญา
เช่น 1 ประเทศออสเตรเลีย
นําเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ไปใช้ในโรงเรียนสอนผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย
โดยของผู้เรียน และใช้ในการปรับปรุงการเรียนรู้สําหรับ
เซ็นเซอร์จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ภาษามือของผู้เรียน และใช้ในการ
ผู้เรียนสมาธิสั้น
โดยการตรวจเช็คการทํางานของสมองและการให้รางวัลสําหรับผู้เรียนที่มีพัฒนาการเรียนที่ดีขึ้น คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปก สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ข่าว ประชาสัมพันธ์ วันที่ 4 พฤษภาคม2561) ได้นําเสนอ Digital Learning
Platform แนวทางการจัดการเรียนการ
สอนผ่านระบบออนไลน์และการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ณ
สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สรุปได้ว่า ในเรื่องของการศึกษา สิ่งแรกที่ต้องกระทําคือปรับกระบวนทัศน์
(Paradigm) ให้ชัดเจน ชัยชนะจะ
เกิดขึ้นได้อยู่ที่ Big data ซึ่งBig
data ในที่นี้ความหมายที่ถูกต้องคือ
ข้อมูลที่เอามาวิเคราะห์และเอาไปใช้ ประโยชน์ในการบริหาร ได้โดยสะดวก
ไม่ใช่หมายถึงข้อมูลจํานวนมากที่จัดเก็บไว้ใคอมพิวเตอร์แม่ ข่าย นอกจาก Big
data แล้ว จิตวิทยาในการจัดการศึกษาเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้
ต้องออกแบบในสิ่งที่ผู้เรียน อยากเรียน ไม่ใช่ออกแบบอย่างที่เราต้องการ
ต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยให้ ความสนใจกับผู้ใช้ (User) และผู้เรียน (Learner) กระทรวงศึกษาธิการต้องตั้งโจทย์ว่าผู้เรียนอยากรู้อะไรที่ไม่
เคยรู้และไม่เคยคิดว่าจะมีทางทําได้ ประเทศไทยกําลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสําคัญ 5 ด้าน ได้แก่
1) Digital Infrastructure การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคมได้ดําเนินการโครงการเน็ตประชารัฐเข้าถึงพื้นที่ระดับชุมชน
2) คนกับดิจิทัล
ต้องมีการสร้างคนในระดับต่างๆ การศึกษาต้องจับคู่กับความต้องการของด้าน
แรงงานให้เหมาะสม ว่ามีความต้องการคนทํางานที่มีคุณสมบัติอย่างไร และด้านใดบ้าง
เพราะจะเห็นได้ว่าใน บางธุรกิจเช่นธุรกิจธนาคาร หรือบางอุตสาหกรรม คนเริ่มถูก AI เข้ามาแทนที่แล้ว
3) Big Data ในภาครัฐ ต้องมีการบูรณาการข้อมูลระหว่างกระทรวงเพื่อนํามาวิเคราะห์
ออกแบบ และวางแผนทางด้านนโยบายต่างๆ เช่น
การเชื่อมโยงข้อมูลการผลิตกําลังคนในระบบการศึกษา
ตอบโจทย์ความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมเป็นต้น
4) Cyber Security ต้องให้ความสําคัญกับความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
5) Internet of
Things (IoT) มหาวิทยาลัยต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยี IOTอย่างเร่งด่วน
อติพร เกิดเรือง (2560) ได้เสนอผลการศึกษาเรื่อง การส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อ รองรับสังคมไทยในยุคดิจิทัล (วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏลําปาง 173 - 184) สรปดังนี้ 1 กาะ ในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับสังคมในยุคดิจิทัล
มี 4 องค์ประกอบหลัก คือ 1) การเรียนรู้เกี่ยวกับดิจิทัล 2) การสร้างสรรค์ 3) การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 4) ผลิตภาพที่มีคุณภาพสูง 2. การเรียนรู้จากยุคเดิมสู่ยุค คาง
ต้องจัดการเรียนรู้ ที่คํานึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเรียน การทํางาน
และการดํารงชีวิต เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ส่งเสริมการค้นคว้าด้วยตนเองโดยนําเทคโนโลยีเข้ามาช่วยใน การจัดการเรียนรู้ให้
มากที่สุด ผู้สอนเป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการเรียนรู้ตามหลักสูตร
และการวัดผลและประเมินผลพัฒนาการ มากกว่าการวัดผลสัมฤทธิ์ 3. การจัดการศึกษาในยุคดิจิทัล
ต้องคํานึงถึงการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เป็นการสร้างสรรค์ปรับแต่ง
การเรียนรู้การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เน้นการใช้เครือข่าย
ออนไลน์ การจัดการเรียนรู้สร้างสถานการณ์ จําลองให้ผู้เรียนพบประสบการณ์จริง
เนื้อหาการเรียนรู้ควรมี การแลกเปลี่ยนเรียนรู้บนเครือข่ายออนไลน์ สามารถสร้างองค์ความรู้
แบ่งปันความรู้และเนื้อหาผ่านเครือข่าย
ออนไลน์และส่งเสริมความรู้ในโลกแห่งการทํางานมากขึ้น